สอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ต้องทำอย่างไรบ้าง?

August 23, 2022
สอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

การสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรก อาจสร้างความกังวลให้กับหลายๆคน และคงมีข้อสงสัยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ข้อสอบยากหรือไม่ มีแนวทางและขั้นตอนอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาตอบคำถามเหล่านี้กันครับ

ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ คือใบอนุญาตที่บ่งบอกว่าผู้ถือนั้นสามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ได้โดยถูกต้องตามกฎหมายบนท้องถนน เป็นเอกสารสำคัญที่ออกโดยกกรมการขนส่งทางบก โดยหากคุณไม่มีใบขับขี่ก็จะถือว่าการขับรถนั้นผิดกฎหมาย มีโทษ และไม่ได้รับความคุ้มครองใดหากเกิดอุบัติเหตุ

โดยการสอบใบขับขี่ในปัจจุบันนั้น มีขั้นตอนและวิธีการที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยจากสถานการณ์ Covid-19 เพื่อลดความแออัดของผู้ที่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานขนส่งต่างๆ

ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ มีกี่ประเภท?

ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล สำหรับการขับขี่ทั่วไป มีอายุการใช้งาน 5 ปี

2. ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์สาธารณะ สำหรับการรับจ้าง บรรทุก รับส่งผู้โดยสาร มีอายุการใช้งาน 3 ปี

อายุเท่าไหร่ ถึงทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้?

การทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นไม่ได้พิจารณาเพียงแค่เรื่องของอายุเหมือนกับใบขับขี่รถยนต์เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องความจุ หรือ ซี.ซี. ของมอเตอร์ไซค์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยมีกฎเกณฑ์ดังนี้

1. ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ความจุไม่เกิน 110 ซี.ซี. จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

2. ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

3. ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์สาธารณะ จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และจะต้องมีใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคลมาก่อน

เอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่

- บัตรประชาชนตัวจริง

- ใบรับรองแพทย์

- หากเป็นชาวต่างชาติสต้องใช้หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต

- หากจองคิวผ่านทางออนไลน์ ให้บันทึกหน้าจอเป็นหลักฐานด้วย

ขั้นตอนการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ในปัจจุบัน ผู้ต้องการสอบใบขับขี่นั้นสามารถ

- เริ่มจากการจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าผ่านทาง แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือที่เว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/login เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว

- ไปยังสำนักงานขนส่งตามเวลาที่ได้ทำการนัดหมาย พร้อมนำเอกสารไปให้ครบ

- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และสายตา เพื่อเช็คสมรรถภาพเบื้องต้นว่าคุณสามารถขับขี่บนถนนได้อย่างปลอดภัย โดยประกอบไปด้วย ทดสอบตาบอดสี (ไฟเขียว, เหลือง, แดง) ทดสอบสายตาทางกว้าง ทดสอบสายตาทางลึก และทดสอบการตอบสนองของเท้า (เหยียบเบรกหลังเห็นสัญญาณไฟ)

- อบรมข้อควรรู้และกฎหมายจราจรต่างๆ 5 ชั่วโมง

- สอบข้อเขียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 50 ข้อ

- สอบปฎิบัติการขับขี่ในวันถัดไป หรือวันที่สะดวก โดยจะต้อง การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร , การขับรถทรงตัวบนทางแคบ , ขับผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัว Z , ผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวารูปตัว S และรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง

- เมื่อผ่านการทดสอบทั้งหมดแล้ว จะไปสู่ขั้นตอนการถ่ายรูปทำใบขับขี่ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม ค่าใบขับขี่จำนวน 100 บาท และค่าคำขอ 5 บาท

ข้อควรรู้ของการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ควรทราบ

การสอบข้อเขียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 50 ข้อนั้นเป็นข้อสอบปรนัย ให้เลือก ก-ง ซึ่งคุณจำเป็นต้องตอบถูกอย่างน้อย 45 ข้อ กรณีที่สอบไม่ผ่านจะต้องกลับมาอบรมและทำการสอบใหม่

โดยข้อสอบนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 8 หมวดหมู่ ได้แก่ หมวดกฎหมายว่าด้วยเรื่องรถมอเตอร์ไซค์, หมวดสัญลักษณ์ป้ายจราจรและเครื่องหมายที่สำคัญ, หมวดรูปภาพจราจร, หมวดวิธีการขับขี่ให้ปลอดภัย, หมวดการดูแลยานพาหนะ, หมวดมารยาทในการขับขี่, หมวดเทคนิคการขับขี่อย่างปลอดภัย

การทดสอบทั้งหมดเหล่านี้ ทำเพื่อทดสอบว่า ผู้ที่ทำใบขับขี่นั้นมีคุณสมบัติเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการขับขี่ มีความรู้ในเรื่องข้อบังคับการเดินรถ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่

โดยใบขับขี่ที่ได้ในครั้งแรกนั้นจะเป็นใบขับขี่ชั่วคราวซึ่งจะมีอายุเพียง 2 ปีเท่านั้น ผู้ขับขี่สามารถทำการเปลี่ยนใบขับขี่จากชนิดชั่วคาวเป็นแบบ 5 ปีได้ล่วงหน้า 90 วันก่อนวันสิ้นอายุ โดยสามารถจองคิวล่วงหน้าและเตรียมเอกสารไปยื่นเรื่อง ไม่จำเป็นต้องทำการอบรม แต่ต้องทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกายและสายตา ดังนั้นคุณควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในด้านความรู้และเอกสารไปให้ครบทุกครั้ง เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางไปทำใบขับขี่

Copyright © 2022Yontrakan All Right Reserved.