น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ ?

September 6, 2023

“น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์” ถือว่าเป็นหัวใจหลักในการทำงานของเครื่องยนต์ มีหน้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์ ป้องกันความเสียหายของชิ้นส่วนภายในรถ และรักษาระดับความร้อนภายในเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับปกติ รวมไปถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้อย่างยาวนานอีกด้วย

 

โดยปกติแล้วมอเตอร์ไซค์คันใหม่ที่พึ่งถอยออกมาจากศูนย์ จะควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในช่วงระยะ 1,000 กิโลเมตรแรก หรือหลังจากการซื้อรถมาใช้งานครบ 1 เดือน เพื่อเป็นการทำความสะอาดคราบที่เกิดจากการเสียดสีในช่วงรันอิน ไม่ว่าจะเป็นลูกสูบ วงแหวนลูกสูบ เสื้อสูบ ฯลฯ แล้วหลังจากระยะเวลาช่วงแรกล่ะต้องควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอีกครั้งเมื่อไหร่ วันนี้เรามีคำตอบ!

 

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง


การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในช่วงหลัง ๆ จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่เป็นหลัก หากคุณขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นประจำ ขับขี่ในระยะทางไกล ๆ จนเลขไมล์ขึ้นมากกว่าปกติ กรณีนี้คุณสามารถสังเกตเลขไมล์เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ครับ ซึ่งน้ำมันเครื่องทั้ง 3 ประเภทควรเปลี่ยนถ่ายตามระยะกิโลเมตร ดังนี้

- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ควรเปลี่ยนถ่ายระยะที่ 4,000 – 5,000 กิโลเมตร

- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนถ่ายระยะที่ 2,000 – 3,000 กิโลเมตร

- น้ำมันเครื่องธรรมดา ควรเปลี่ยนถ่ายระยะที่ 1,500 – 2,000 กิโลเมตร

หมายเหตุ: รถมอเตอร์ไซค์จะมีระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่เร็วกว่ารถยนต์

แต่ถ้าหากรถของคุณใช้น้ำมันเครื่องมาสักระยะหนึ่ง แล้วเครื่องยนต์เกิดอาการทำงานผิดปกติ เช่น รถอืด รถกินน้ำมัน หรือควันดำ เป็นต้น นั่นเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเตือนอื่น ๆ ที่เราได้รวบรวมมาให้แล้ว ตามมาดูกันครับ

5 สัญญาณเตือน ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง !

1. รถอืด เร่งไม่ขึ้น

เกิดจากการไม่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมานาน หรือน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ น้ำมันเครื่องแห้ง ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นควรนำรถเข้าศูนย์ให้ช่างตรวจสอบตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด เพื่อทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทันที

 

2. เสียงเครื่องยนต์ดัง

เครื่องยนต์มีเสียงดังกว่าปกติอาจเกิดจากน้ำมันเครื่องเริ่มมีอาการแห้ง ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการสึกหรอได้เร็ว

 

3. รถยนต์กินน้ำมันมากขึ้น

เกิดจากการไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด ทำให้น้ำมันเครื่องเริ่มมีความหนืด จนไม่สามารถปั๊มน้ำมันขึ้นไปหล่อลื่นลูกสูบได้ทัน ส่งผลให้เครื่องยนต์ภายในทำงานหนักและกินน้ำมันมากขึ้นนั่นเอง 

 

4. มีควันดำออกจากท่อไอเสีย

เร่งเครื่องแล้วเกิดอาการรถฝืด มีควันออกจากท่อไอเสีย อาจเกิดจากน้ำมันเครื่องไม่มีคุณภาพและไม่ได้รับมาตรฐาน หรือไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนดไว้ 

 

5. น้ำมันเครื่องมีสีเข้มออกดำ

ตามปกติแล้วน้ำมันเครื่องใหม่จะมีสีเหลืองทอง แต่ถ้าหากน้ำมันเครื่องถูกเติมลงไปในเครื่องยนต์แล้ว สีของน้ำมันเครื่องจะค่อย ๆ ถูกเปลี่ยนไปตามการใช้งาน โดยสาเหตุที่น้ำมันเครื่องเปลี่ยนสีเป็นสีเทาเข้มหรือดำ เป็นเพราะเจอสิ่งสกปรกภายในเครื่องยนต์ เช่น ฝุ่น ควัน หรืออาจเกิดจากรถถูกจอดทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานจนลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกิน 6 เดือน ทำให้เกิดคราบเขม่าและความชื้นจากการเผาไหม้ที่ตกค้างอยู่นั้น ตกลงไปผสมกับน้ำมันเครื่องจนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นสีเข้ม ดังนั้นหากสังเกตว่าน้ำมันเครื่องเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ควรนำรถยนต์ไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทันที

 

สรุปได้ว่า ระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่เป็นหลักและสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้แล้ว คุณจึงควรหมั่นตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ มีวินัยในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามเวลาที่กำหนด เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ที่ดี ด้วยความเป็นห่วงจาก 35 ยนตรการ

Copyright © 2022Yontrakan All Right Reserved.