เวลาออกทริปหรือแค่จะขี่รถไปทำงานตอนเช้า ไม่มีอะไรจะชวนหงุดหงิดไปกว่าการสตาร์ทรถไม่ติด ไฟไม่มา หรืออยู่ดี ๆ รถดับกลางทางโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว “แบตเตอรี่” คือผู้ต้องสงสัยอันดับต้น ๆ !
แบตเตอรี่ไม่ใช่อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนบ่อย แต่ถ้าปล่อยปะละเลย ไม่ใส่ใจสภาพ หรือใช้งานผิดวิธี ก็อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงอย่างไม่น่าเชื่อ วันนี้ 35 ยนตรการจะพาไปดูวิธีดูแลแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์แบบเข้าใจง่าย ทำตามได้จริง เพื่อให้แบตฯ อยู่กับรถคุณได้นานที่สุดเท่าที่ควรจะเป็น
เริ่มจากเรื่องง่ายที่สุด คือการหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติ เช่น ไฟหน้าสว่างน้อยลง เสียงแตรเบากว่าปกติ หรือสตาร์ทรถยากขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าแบตฯ กำลังจะหมด หรือเริ่มเสื่อมแล้ว
แนะนำให้ตรวจดูแรงดันไฟฟ้า (ถ้ามีมัลติมิเตอร์) หรือให้ช่างที่ไว้ใจได้ช่วยวัดให้เป็นประจำ เดือนละครั้งก็ยังดี เพราะถ้าหากรู้ก่อนว่าแบตกำลังหมด ก็จะได้เตรียมเปลี่ยนหรือชาร์จใหม่ก่อนเกิดปัญหากลางทางได้
การจอดรถทิ้งไว้โดยไม่ขี่เป็นสัปดาห์ หรือบางคนเก็บรถไว้หลายเดือน นั่นแหละคือสาเหตุให้แบตฯ เสื่อมเร็วโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่มีไฟหมุนเวียนในระบบ
วิธีง่าย ๆ คือสตาร์ทรถสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยให้เครื่องเดินเบาประมาณ 5 -10 นาที เพื่อให้ไดชาร์จทำงาน และรักษาไฟในแบตฯ ให้อยู่ในระดับปกติ ซึ่งวิธีนี้ควรทำกับรถที่ไม่ได้ขี่ทุกวัน หรือเป็นรถสำรอง
บางคนใช้งานจนแบตเตอรี่หมดไฟซ้ำ ๆ แล้วจึงค่อยชาร์จหรือเปลี่ยน วิธีนี้อาจดูเหมือนไม่เป็นไรในช่วงแรก แต่จริง ๆ แล้วทำให้แบตฯ เสื่อมเร็วมาก
การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดไฟบ่อย ๆ จะทำให้เซลล์ภายในเสื่อมเร็ว ส่งผลให้แบตฯ เก็บไฟได้น้อยลงกว่าปกติ แนะนำให้ตรวจสอบว่าระบบชาร์จไฟของรถยังทำงานปกติหรือไม่ และควรระวังการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเสริม อย่างเช่นไฟแต่งหรือที่ชาร์จมือถือ เพราะถ้าใช้ไฟเกินกำลังโดยไม่วางแผน อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นกว่าเดิม
ถ้าจำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่เอง ต้องรู้ก่อนว่าประเภทแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ของคุณเป็นแบบไหน เพราะการชาร์จผิดประเภทอาจทำให้แบตฯ บวม เสื่อม หรือเสียหายถาวรได้
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแรงดันสูงเกินจำเป็น หรือเสียบทิ้งข้ามคืนแบบไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เพราะนั่นจะเป็นการเร่งให้แบตฯ เสียเร็วขึ้นแทนที่จะยืดอายุ
ไม่ว่าจะดูแลดีแค่ไหน แบตเตอรี่ก็มีอายุจำกัด โดยทั่วไปแล้วแบตฯ มอเตอร์ไซค์จะใช้งานได้ราว 1.5-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน การจอด การดูแล และประเภทของแบตฯ เอง
หากแบตฯ เริ่มสตาร์ทยากแม้จะชาร์จแล้ว หรือแรงดันไฟตกบ่อยแม้จะไม่มีอุปกรณ์เสริมเพิ่ม แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ก่อนจะเสียกลางทาง ไม่ควรรอให้พังแล้วค่อยเปลี่ยน เพราะอาจทำให้เสียเวลาและต้องจ่ายค่าซ่อมส่วนอื่นเพิ่มเติมด้วย
สรุปได้ว่า แบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์อาจดูเป็นของเล็ก ๆ ไม่ได้มีชิ้นส่วนซับซ้อน แต่ก็มีผลกับการขับขี่ในทุกวันแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟ ระบบสตาร์ท หรือการใช้งานทั่วไป
เพียงแค่หมั่นสังเกต หมั่นสตาร์ท หลีกเลี่ยงการใช้งานเกินกำลัง และเลือกวิธีชาร์จให้เหมาะสม ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตฯ ได้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนบ่อย ด้วยความห่วงใยจาก 35 ยนตรการครับ