ขี่รถดี เครื่องแน่น ช่วงล่างแน่นหนึบ…แต่ทำไมรู้สึกว่ารถกระตุก ๆ เวลาค่อย ๆ เร่ง หรือบางครั้งได้ยินเสียงดัง “ตั้บ ๆ” ตรงช่วงท้าย ทั้งที่ก็ไม่ได้บรรทุกหนักหรือเจอหลุมแรง ๆ หนึ่งในสาเหตุที่หลายคนมองข้ามคือ “โซ่มอเตอร์ไซค์” ที่ไม่ได้ตั้งระยะให้พอดี โซ่ที่ตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไปจะส่งผลให้ขับขี่ไม่ลื่น ไม่ปลอดภัย และเกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนโดยรวมอีกด้วย
วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกกันว่าการตั้งโซ่มอเตอร์ไซค์ให้ถูกต้องมีความสำคัญอย่างไร แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าโซ่ของคุณ “ตึงเกินไป” หรือ “หย่อนเกินไป” มาดูคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย!
ก่อนจะรู้ว่าทำไมต้องตั้งโซ่ให้ถูก มาทำความเข้าใจก่อนว่า “โซ่มอเตอร์ไซค์” ทำหน้าที่อะไร โซ่เป็นตัวกลางที่ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อหลัง คล้ายกับสายพานในรถยนต์ แต่แข็งแรงกว่า เพราะต้องรับแรงบิดที่สูงและต่อเนื่อง หากโซ่ยืด หลวม หรือแน่นเกินไป การถ่ายทอดกำลังก็จะไม่มีประสิทธิภาพ และส่งผลเสียตามมาในระยะยาว
ดังนั้นไม่ว่าโซ่จะหลวมหรือแน่น โซ่ที่ไม่ได้ระยะพอดีก็จะมีแต่ผลเสียทั้งนั้น
ระยะห่างที่เหมาะสมในการตั้งโซ่รถมอเตอร์ไซค์ จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 - 2.5 เซนติเมตร เมื่อกดหรือดันโซ่ขึ้นลงบริเวณกึ่งกลางระหว่างสเตอร์หน้าและหลัง
แต่บางรุ่นอาจมีค่าที่แตกต่างกันนิดหน่อย วิธีที่แม่นยำที่สุดคือเช็กจากคู่มือรถ หรือดูจากสติกเกอร์ที่ติดไว้ใกล้สวิงอาร์มหลังของรถ ซึ่งจะบอกระยะโซ่ที่เหมาะสมไว้อย่างชัดเจน
สามารถทำได้เองที่บ้าน ถ้ามีเครื่องมือพื้นฐาน เช่น ประแจหกเหลี่ยม ประแจเลื่อน และลูกบ๊อกซ์ โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ คือ
หากไม่มีประสบการณ์หรือไม่มั่นใจ แนะนำให้เข้าร้านที่ไว้ใจได้ เพราะการตั้งโซ่ไม่ถูกหลัก นอกจากจะทำให้เสียสมรรถนะ ยังอาจทำให้รถเสียหายได้ในระยะยาว
ถ้ามีอาการเหล่านี้ อย่ารอให้ถึงขั้นโซ่ขาดกลางทาง รีบจัดการตั้งโซ่ให้เรียบร้อยจะดีที่สุด
จะเห็นได้ว่าการตั้งโซ่มอเตอร์ไซค์ที่ถูกหลักจะช่วยเรื่องความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของรถทั้งระบบ ถ้าหากละเลยหรือมองข้ามอาจทำให้คุณต้องเสียเงินกับการเปลี่ยนชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่สึกหรอจากโซ่ที่ไม่พอดี ดังนั้นอย่าลืมที่จะตั้งโซ่ให้ถูกต้อง รถก็จะอยู่กับคุณได้นานขึ้น ด้วยความห่วงใยจาก 35 ยนตรการ