
ปัจจุบันเทรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นทางเลือกใหม่ของคนเมืองที่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกัน มอเตอร์ไซค์น้ำมันก็ยังครองตลาดหลัก เพราะให้ความคล่องตัวสูงและเติมน้ำมันเพียงไม่กี่นาทีก็ขี่ต่อได้ทันที
แล้วระหว่าง มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า กับ มอเตอร์ไซค์น้ำมัน แบบไหนประหยัดกว่าในการใช้งานจริง วันนี้ 35ยนตรการ จะพาไปเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ทั้งด้านค่าใช้จ่าย การบำรุงรักษา และความคุ้มค่าในระยะยาว
ถ้าเทียบต้นทุนพลังงานต่อกิโลเมตร มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าชนะขาด เพราะค่าไฟฟ้าถูกกว่าน้ำมันมาก ตัวอย่างเช่น
สรุปได้ว่า ค่าไฟต่อการวิ่งระยะเดียวกันประหยัดกว่าน้ำมันถึง 10 เท่า ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจนของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในยุคที่ค่าน้ำมันยังคงสูง
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์สันดาป ไม่มีระบบเกียร์ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ทำให้มีชิ้นส่วนสึกหรอน้อยกว่ามอเตอร์ไซค์น้ำมันมาก การดูแลส่วนใหญ่จะเป็นเพียงการตรวจสภาพแบตเตอรี่ ยาง และระบบเบรก
ในขณะที่มอเตอร์ไซค์น้ำมันต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 2,000-3,000 กิโลเมตร มีระบบกรองอากาศ กรองน้ำมัน เครื่องยนต์ และเกียร์ที่ต้องดูแลตามระยะ การซ่อมบำรุงจึงมีราคามากกว่าและมีค่าใช้จ่ายสะสมสูงกว่าในระยะยาว ดังนั้น ถ้ามองเรื่องค่าซ่อมและบำรุงรักษาโดยรวม มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจึงประหยัดกว่าอย่างชัดเจน
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีต้นทุนแฝงที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ เช่น ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของรถ เมื่อใช้งานไป 3-5 ปี แบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์จะเริ่มเสื่อมและต้องเปลี่ยนใหม่ ราคาประมาณ 15,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและความจุ
ส่วนมอเตอร์ไซค์น้ำมัน แม้จะมีค่าใช้จ่ายจุกจิก เช่น ค่าน้ำมันเครื่องหรือกรองอากาศ แต่ไม่มีค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่แพงขนาดนั้น (แบตเตอรี่รถทั่วไปอยู่ราว 800-1,500 บาท)
จึงพูดได้ว่าในระยะสั้นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าถูกกว่าแน่นอน แต่ในระยะยาวต้องพิจารณาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วย เพราะอาจทำให้ความคุ้มค่าลดลงได้หากใช้งานไม่มาก
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเหมาะกับการขับขี่ระยะใกล้ในเมือง เช่น วิ่งไปทำงานระยะไม่เกิน 20-30 กิโลเมตรต่อวัน แต่หากต้องเดินทางไกลหรือขับต่อเนื่องหลายชั่วโมง อาจไม่สะดวก เพราะต้องชาร์จแบตเตอรี่ใหม่หลังใช้งาน
ในขณะที่มอเตอร์ไซค์น้ำมันสามารถเติมน้ำมันและขี่ต่อได้ทันที ไม่ต้องรอชาร์จ เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้รถตลอดวัน เช่น พนักงานส่งของ หรือคนที่เดินทางไกลบ่อย ๆ
ดังนั้นถ้าคุณใช้งานในเมืองเป็นหลัก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือทางเลือกที่ดีและประหยัดจริง แต่ถ้าคุณใช้รถหนัก เดินทางต่างจังหวัดบ่อย รถมอเตอร์ไซค์น้ำมันยังคงตอบโจทย์กว่าในเรื่องความสะดวกและระยะทาง
ข้อดีอีกอย่างของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือ ไม่มีการปล่อยควันหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดมลพิษทางอากาศในเมืองได้มาก ต่างจากมอเตอร์ไซค์น้ำมันที่มีการเผาไหม้และปล่อยไอเสีย แม้จะมีระบบกรองไอเสียแล้ว แต่ก็ยังมีผลต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ดี
นอกจากนี้ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังมีเสียงเครื่องเงียบ ลดมลพิษทางเสียง เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ชุมชนหรือในร่ม เช่น โรงงานหรือโกดัง
สรุปได้ว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าชนะในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรและค่าบำรุงรักษา ขณะที่มอเตอร์ไซค์น้ำมันยังได้เปรียบในด้านความสะดวกและความทนทานในระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันก็มีรถน้ำมันรุ่นใหม่หลายรุ่นที่มีเทคโนโลยีประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น เช่น ระบบหัวฉีดและสตาร์ต
ทั้งนี้เราแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกมอเตอร์ไซค์ให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานจริง เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าที่แท้จริงไม่ใช่แค่ประหยัดในระยะสั้น ด้วยความเป็นห่วงจาก 35 ยนตรการครับ